1.คนไทย แต่งกับ คนไทย
2. คนไทย แต่งกับ คนเช็ก
3. คนไทย แต่งกับ คนประเทศอื่นๆในสาธารณรัฐเช็ก
ทีนี้ก็มาแยกประเภทของการทำเรื่องเอกสารกัน
1.สำหรับคนที่ยังไม่เคยแต่งงานมาก่อน คือแต่งงานครั้งแรก กลุ่มนี้จะไม่ต้องขอเอกสารมาประกอบการแต่งงานมากนัก
2.สำหรับผู้ที่ผ่านการแต่งงานมาแล้ว หย่ากันแล้ว หรือคู่สมรสเดิมเสียชีวิตไปแล้ว ก็นำใบหย่า ใบโสดมาแสดงให้ทางสถานฑูตดูด้วย
3.สำหรับคนไทยที่ต้องการแต่งตามกฏหมายเช็กหรือกฏหมายประเทศอื่นๆ ในประเทศเช็ก ก็นำใบโสดมาที่แปลและรับรองจากกงสุลเมืองไทยมาให้ทางสถานฑูตออกหนังสือรับรองสถานภาพสมรส เพื่อนำไปยื่นให้นายทะเบียนท้องที่ ที่จะทำการจดทะเบียนสมรสใหม่ หรือสถานฑูตประเทศอื่นๆ
ถ้าตัวอยู่ต่างประเทศต้องการให้ผู้อื่นไปขอใบโสดแทน ต้องมาทำหนังสือมอบอำนาจ รับรองลายมือผู้มอบอำนาจที่สถานฑูตไทยในประเทศที่ท่านอยู่ แล้วจึงส่งไปให้ผู้รับมอบอำนาจที่เมืองไทยไปดำเนินการ เอกสารที่ต้องนำมาทำหนังสือมอบอำนาจ
1.ทะเบียนบ้าน
2.บัตรประชาชน
3.หนังสือเดินทาง
4.ใบหย่า ถ้ามี
5.ใบเปลี่ยนชื่อ ถ้ามี
ทำสำเนา รับรองเอกสาร อย่างละ 3 ชุด
เทคนิค ควรขอสำเนาทะเบียนบ้านผู้รับมอบอำนาจมาด้วย เพราะต้องมีการกรอก รายละเอียดของผู้รับมอบ อายุ ที่อยู่ พร้อมทั้งชื่อ บิดา มารดา นามสกุล ของผู้รับมอบด้วย
แล้วนัดหมายทางสถานฑูตเพื่อไปกรอกแบบฟอร์ม ค่าธรรมเนียม 450 คูรูน่า ต่อหนึ่งฉบับ การขอใบโสดนั้นจะต้องนำไปแปล และรับรองที่กงสุลด้วย ดังนั้นจึงต้องมีการมอบอำนาจอีกเรื่องนึงพร้อมกัน คือมอบอำนาจรับรองกงการกงสุล
การจดทะเบียนสมรส
คณสมบัติของผู้ที่จะจดทะเบียนสมรส
• ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า17 ปีบริบูรณ์ แต่หากอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ จะต้องนำบิดามารดาหรือผู้ปกครองปกครองตามกฎหมายมาให้ความยินยอมด้วย กรณีนี้ถ้าครอบครัวอยู่ในเมืองไทยก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนำผู้ปกครองมาให้ความยินยอม
• ในกรณที มีอายุต่ำกว่า 17 ปี ต้องได้รับอนุญาตจากศาลใหทำการสมรสได้
• ผู้ที่มีอายุ 20 ปี บริบูรณ์ขี้นไปสามารถดำเนินการจดทะเบียนสมรสได้ด้วยตนเอง
• ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือไร้ความสามารถ
• ไม่เป็นพี่น้องร่วมบิดา มารดา หรือร่วมแต่บิดามารดา
• ไม่เป็นคู่สมรสของบุคคลอื่น ข้อนี้ทำให้ผู้ที่เคยแต่งงานมาแล้วต้องนำเอกสารมายืนยันว่าโสดจริง
• ผู้รับบุตรบุญธรรมจะสมรสกับบุตรบุญธรรมไม่ได้
• หญิงหม้ายจะสมรสใหม่ได้ต่อเมื่อการสมรสครั้งก่อนสิ้นสุดตามกฏหมายแล้วไม่น้อยกว่า 310 วัน เว้นแต่
- คลอดบตรแล้วในระหว่างนั้น
- สมรสกับคู่สมรสเดิม
- มีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์
- ศาลมีคำสั่งให้สมรสได้
http://www.mfa.go.th/internet/document/1152.pdf ตัวอย่างคำร้องขอหนังสือรับรองสถานภาพสมรสของสถานฑูตไทยในเยอรมัน
ดูตัวอย่างหนังสือรับรองสถานภาพสมรส ที่ออกโดยสถานฑูตไทยในปราก ได้ที่นี่
https://skydrive.live.com/?sc=documents&cid=7398076453a57871#!/view.aspx?cid=7398076453A57871&resid=7398076453A57871%213042
เอกสารที่ใช้จดทะเบียนสมรสที่สถานเอกอัคราชฑูต
สำหรับคนไทย
• บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง หรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้
• หนังสือรับรองความเป็นโสด ซึ่งออกให้โดยอำเภอซึ่งผู้ร้องมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย
(หนังสือรับรองต้องมีอายุไม่เกิน 3 เดือนจนถึงวันจดทะเบียนสมรส ) ได้มาแล้วก็ต้องรีบมาดำเนินการจด
• ใบรับรองซุึ่งออกโดยแพทย์ของเช็กว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ (กรณีหย่าและสมรสใหม่ไม่ถึง 310 วัน )
สาหรับคนต่างชาติ
• หนังสือรับรองความเป็นโสด ซึ่งออกให้โดยหน่วยงานท้องถิ่นของประเทศผู้ร้อง
โดยผ่านการรับรองเอกสารจากกระทรวงการต่างประเทศของผู้ร้อง และแปลเอกสารเป็น
ภาษาอังกฤษ (Official Translation) (ในกรณทีเอกสารต้นฉบับเป็นภาษาท้องถิ่น)
• หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ
• ใบรับรองซึ่งออกโดยแพทย์ของเช็กว่าไม่ได้ตั้งครรภ์(กรณหย่าและสมรสใหม่ไม่ถึง 310 วัน )
ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรส
• ติดต่อฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูต เพื่อนัดหมายวันและเวลาล่วงหน้า
• ในวันนัดหมาย คู่สมรสต้องไปปรากฎตัวต่อหน้านายทะเบียนทั้งสองคน
• คู่สมรสต้องนำพยานบคคล 2 คน ไปด้วย
• คู่สมรสทียังไม่บรรลุนิติภาวะ ต้องนำบิดา มารดาหรือ ผู้ปกครองตามกฏหมายมาให้ความยินยอมด้วย
ค่าธรรมเนียม
ไมเสียค่าธรรมเนียม
ระยะเวลาการดำเนินการ
ประมาณ 2 ชั่วโมง
หมายเหตุ 1) เมื่อจดทะเบียนสมรสแล้ว หากคู่สมรสฝ่ายหญิงเป็นบุคคลสัญชาติ ไทย และถือ
หนังสือเดินทางรูปแบบเก่าที่มิใช่ หนังสือเดินทางอิเล็คทรอนิกส์สามารถยื่นเรื่องเพื่อขอเปลี่ยน่
นามสกลในหนังสือเดินทางที่ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แต่ทั้งนี้จะต้องไปดำเนินการแก้ไข
ทะเบยนราษฏร์ และขอเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชนให้ถูกต้อง ณ อำเภอท้องที่ภูมิลำเนาพร้อมทั้งทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ทันทีที่เดินทางกลับประเทศไทย
2) ตามพระราชบัญญัติคำนำหน้านามหญิง พ.ศ.2551 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2551 หญิงที่ สมรสแล้วสามารถเลือกใช้ คำนำหน้านามว่า “นาง” หรือ “นางสาว” ได้ตามความสมัครใจโดยไม่ต้องแจ้งต่อนายทะเบียน สถานเอกอัครราชฑูตในวันที่ไปขอจดทะเบียนสมรส