วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554

แต่งงานที่ประเทศเช็ก

การแต่งงานในสาธารณรัฐเช็กนั้น มีอยู่ 3 กรณี คือ
1.คนไทย แต่งกับ คนไทย
2. คนไทย แต่งกับ คนเช็ก
3. คนไทย แต่งกับ คนประเทศอื่นๆในสาธารณรัฐเช็ก

ทีนี้ก็มาแยกประเภทของการทำเรื่องเอกสารกัน
1.สำหรับคนที่ยังไม่เคยแต่งงานมาก่อน คือแต่งงานครั้งแรก กลุ่มนี้จะไม่ต้องขอเอกสารมาประกอบการแต่งงานมากนัก
2.สำหรับผู้ที่ผ่านการแต่งงานมาแล้ว หย่ากันแล้ว หรือคู่สมรสเดิมเสียชีวิตไปแล้ว ก็นำใบหย่า ใบโสดมาแสดงให้ทางสถานฑูตดูด้วย
3.สำหรับคนไทยที่ต้องการแต่งตามกฏหมายเช็กหรือกฏหมายประเทศอื่นๆ ในประเทศเช็ก ก็นำใบโสดมาที่แปลและรับรองจากกงสุลเมืองไทยมาให้ทางสถานฑูตออกหนังสือรับรองสถานภาพสมรส เพื่อนำไปยื่นให้นายทะเบียนท้องที่ ที่จะทำการจดทะเบียนสมรสใหม่ หรือสถานฑูตประเทศอื่นๆ


ถ้าตัวอยู่ต่างประเทศต้องการให้ผู้อื่นไปขอใบโสดแทน ต้องมาทำหนังสือมอบอำนาจ รับรองลายมือผู้มอบอำนาจที่สถานฑูตไทยในประเทศที่ท่านอยู่ แล้วจึงส่งไปให้ผู้รับมอบอำนาจที่เมืองไทยไปดำเนินการ เอกสารที่ต้องนำมาทำหนังสือมอบอำนาจ
1.ทะเบียนบ้าน
2.บัตรประชาชน
3.หนังสือเดินทาง
4.ใบหย่า ถ้ามี
5.ใบเปลี่ยนชื่อ ถ้ามี
 ทำสำเนา รับรองเอกสาร อย่างละ 3 ชุด

เทคนิค ควรขอสำเนาทะเบียนบ้านผู้รับมอบอำนาจมาด้วย เพราะต้องมีการกรอก รายละเอียดของผู้รับมอบ อายุ ที่อยู่ พร้อมทั้งชื่อ บิดา มารดา นามสกุล ของผู้รับมอบด้วย

แล้วนัดหมายทางสถานฑูตเพื่อไปกรอกแบบฟอร์ม  ค่าธรรมเนียม 450 คูรูน่า ต่อหนึ่งฉบับ  การขอใบโสดนั้นจะต้องนำไปแปล และรับรองที่กงสุลด้วย ดังนั้นจึงต้องมีการมอบอำนาจอีกเรื่องนึงพร้อมกัน คือมอบอำนาจรับรองกงการกงสุล


การจดทะเบียนสมรส
คณสมบัติของผู้ที่จะจดทะเบียนสมรส
• ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า17 ปีบริบูรณ์ แต่หากอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ จะต้องนำบิดามารดาหรือผู้ปกครองปกครองตามกฎหมายมาให้ความยินยอมด้วย กรณีนี้ถ้าครอบครัวอยู่ในเมืองไทยก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนำผู้ปกครองมาให้ความยินยอม
• ในกรณที มีอายุต่ำกว่า 17 ปี ต้องได้รับอนุญาตจากศาลใหทำการสมรสได้
• ผู้ที่มีอายุ 20 ปี บริบูรณ์ขี้นไปสามารถดำเนินการจดทะเบียนสมรสได้ด้วยตนเอง
• ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือไร้ความสามารถ
• ไม่เป็นพี่น้องร่วมบิดา มารดา หรือร่วมแต่บิดามารดา
• ไม่เป็นคู่สมรสของบุคคลอื่น ข้อนี้ทำให้ผู้ที่เคยแต่งงานมาแล้วต้องนำเอกสารมายืนยันว่าโสดจริง
• ผู้รับบุตรบุญธรรมจะสมรสกับบุตรบุญธรรมไม่ได้
• หญิงหม้ายจะสมรสใหม่ได้ต่อเมื่อการสมรสครั้งก่อนสิ้นสุดตามกฏหมายแล้วไม่น้อยกว่า  310 วัน เว้นแต่

- คลอดบตรแล้วในระหว่างนั้น
- สมรสกับคู่สมรสเดิม
- มีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์
- ศาลมีคำสั่งให้สมรสได้


http://www.mfa.go.th/internet/document/1152.pdf   ตัวอย่างคำร้องขอหนังสือรับรองสถานภาพสมรสของสถานฑูตไทยในเยอรมัน

ดูตัวอย่างหนังสือรับรองสถานภาพสมรส ที่ออกโดยสถานฑูตไทยในปราก ได้ที่นี่
https://skydrive.live.com/?sc=documents&cid=7398076453a57871#!/view.aspx?cid=7398076453A57871&resid=7398076453A57871%213042




เอกสารที่ใช้จดทะเบียนสมรสที่สถานเอกอัคราชฑูต

สำหรับคนไทย
• บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง หรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้
• หนังสือรับรองความเป็นโสด ซึ่งออกให้โดยอำเภอซึ่งผู้ร้องมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย
(หนังสือรับรองต้องมีอายุไม่เกิน 3 เดือนจนถึงวันจดทะเบียนสมรส ) ได้มาแล้วก็ต้องรีบมาดำเนินการจด
• ใบรับรองซุึ่งออกโดยแพทย์ของเช็กว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ (กรณีหย่าและสมรสใหม่ไม่ถึง  310 วัน )
สาหรับคนต่างชาติ
• หนังสือรับรองความเป็นโสด ซึ่งออกให้โดยหน่วยงานท้องถิ่นของประเทศผู้ร้อง      
โดยผ่านการรับรองเอกสารจากกระทรวงการต่างประเทศของผู้ร้อง และแปลเอกสารเป็น
ภาษาอังกฤษ (Official Translation) (ในกรณทีเอกสารต้นฉบับเป็นภาษาท้องถิ่น)
• หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ
• ใบรับรองซึ่งออกโดยแพทย์ของเช็กว่าไม่ได้ตั้งครรภ์(กรณหย่าและสมรสใหม่ไม่ถึง 310 วัน )


ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรส
• ติดต่อฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูต เพื่อนัดหมายวันและเวลาล่วงหน้า
• ในวันนัดหมาย  คู่สมรสต้องไปปรากฎตัวต่อหน้านายทะเบียนทั้งสองคน
• คู่สมรสต้องนำพยานบคคล 2 คน ไปด้วย
• คู่สมรสทียังไม่บรรลุนิติภาวะ ต้องนำบิดา มารดาหรือ ผู้ปกครองตามกฏหมายมาให้ความยินยอมด้วย
ค่าธรรมเนียม
ไมเสียค่าธรรมเนียม

ระยะเวลาการดำเนินการ
ประมาณ 2 ชั่วโมง
หมายเหตุ   1)  เมื่อจดทะเบียนสมรสแล้ว หากคู่สมรสฝ่ายหญิงเป็นบุคคลสัญชาติ ไทย และถือ
หนังสือเดินทางรูปแบบเก่าที่มิใช่ หนังสือเดินทางอิเล็คทรอนิกส์สามารถยื่นเรื่องเพื่อขอเปลี่ยน่
นามสกลในหนังสือเดินทางที่ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แต่ทั้งนี้จะต้องไปดำเนินการแก้ไข
ทะเบยนราษฏร์ และขอเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชนให้ถูกต้อง ณ อำเภอท้องที่ภูมิลำเนาพร้อมทั้งทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ทันทีที่เดินทางกลับประเทศไทย

2) ตามพระราชบัญญัติคำนำหน้านามหญิง  พ.ศ.2551 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่  4 มิถุนายน 2551 หญิงที่ สมรสแล้วสามารถเลือกใช้ คำนำหน้านามว่า “นาง” หรือ “นางสาว” ได้ตามความสมัครใจโดยไม่ต้องแจ้งต่อนายทะเบียน สถานเอกอัครราชฑูตในวันที่ไปขอจดทะเบียนสมรส

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กลโกงอื่นๆที่ควรระวัง

การโก่งราคาในการแลกเปลี่ยนเงิน

ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราที่คิดค่าคอมมิชชั่นแบบขูดรีด และมีบางรายติดป้ายว่ามไม่มีค่าคอมมิชชั่นแต่มีเงื่อนไขที่เป็นตัวหหนังสือเล็กๆทำให้ผู้แลกไม่สังเกตุเห็น กรุณาอ่านรายละเอียดเงื่อนไขการแลกเงินให้ชัดเจน ซึ่งทางร้านมักจะทำเป็นตัวหนังสือเล็กๆมากๆ



กลโกงจากเอทีเอ็ม – กรุงปรากเคยถูกโจมตีจากเรื่องคัดลอกข้อมูลในบัตรมาก่อน วิธีป้องกันปัญหานี้ทำได้ โดยใช้เครื่องเอทีเอ็มที่อยู่ภายในธนาคาร งดใช้เครื่องที่อยู่ภายนอก กลโกงนี้ไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรงนัก เนื่องจากไม่ค่อยได้เกิดขึ้นบ่อยๆ

การหลอกลวงบนรถไฟใต้ดิน
ถ้าคุณใช้บริการรถไฟใต้ดิน (โดยเฉพาะช่วงกลางคืน) คุณอาจพบกลุ่มคนที่แอบอ้างตนเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรถไฟใต้ดินแล้วขอตรวจตั๋วของคุณ แล้วบอกคุณว่า คุณยังไม่ได้ตอกตั๋วนั้น และคุณตัองเสียค่าปรับจำนวน 500 คราวน์ (หรือ 1000 คราวน์ถ้าคุณโต้เถียง) ถ้าเกิดคุณเจอกับคนเหล่านี้ และคุณแน่ใจว่าคุณได้ตอกตั๋วแล้ว บอกให้พวกนั้นเรียกตำรวจ หรือคุณเรียกตำรวจเสียเองเลย การตรวจตั๋วจากเจ้าหน้าที่ตัวจริงจะต้องมีการแสดงตราสัญลักษณ์เจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะอยู่ในเครื่องแบบ หรือนอกเครื่องแบบ
สิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวโดนปรับกันมากคือการไม่ตอกตั๋ว และการซื้อตั๋วผิดประเภท ตั๋วบางประเภทเป็นตั๋วที่มีเงื่อนไข เช่นตั๋ว 30 นาทีจะใช้ได้เพียง ห้าสถานี และห้ามเปลี่ยนสาย



การโจรกรรมในตู้รถไฟนอน
คุณต้องตั้งสติให้ดีเวลาโดยสารรถนอน เนื่องจากจำนวนการขโมยกระเป๋าระหว่างสถานีหลักๆ มีเพิ่มมากขึ้น


กลลวงหลอกตรวจหนังสือเดินทาง หรืออ้างว่าตรวจเงินปลอม
ถ้ามีใครขอมาขอตรวจตั๋วหรือหนังสือเดินทาง หรืออ้างว่ามีการระบาดของเงินปลอม จึงขอตรวจให้บอกว่าให้หาคนที่พูดเข้าใจมาเป็นพยานด้วย ขอดูบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ และตราสัญลักษณ์ และล็อคสัมภาระของคุณไว้กับราวแขวนให้ดี เก็บของมีค่าไว้กับตัว มีสติตลอดเวลา อย่าให้เขาเตะต้องกระเป๋าเงินคุณ ถ้าเป็นไปได้ให้บอกเขาว่าคุณยินดีไปกับเขายังสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดและให้ทำการตรวจค้นที่สถานีตำรวจ ไม่ใช่กลางถนน

กลโกงการแลกเงิน
การแลกเงิน จะ มีมิจฉาชีพคอยถามว่าต้องการแลกเงินไหม และเสนออัตราสูงกว่าที่ร้านแลกเงิน ซึ่ง อาจได้เงินฮังการี โปแลนด์ ซึ่งมีตัวเลขที่สูงแต่มูลค่าน้อย คนที่ไม่เคยเห็นหน้าตาเงินเช็กอาจจะไม่ทราบว่าเป็นเงินจากประเทศอื่น ดังนั้นศึกษาหน้าตาเงินของประเทศที่ท่านเดินทางไปให้ดี อย่าแลกเงินกับคนที่มาเสนอให้เด็ดขาด ทางการเช็กตระหนักถึงปัญหาเรื่องนี้ดี และติดป้ายประกาศเตือนขนาดใหญ่ตามศูนย์กลางการท่องเที่ยว ให้ระวังการแลกเงินกับคนแปลกหน้าให้มาก

กลโกงแท๊กซี่ในปราก

ความฉ้อฉลของแท็กซี่ในกรุงปราก

เมื่อก่อนนั้นคนขับแท็กซี่ในกรุงปรากมีชื่อเสียโด่งดังมาก บ่อยครั้งที่ชาวต่างชาติไม่รู้ตัวว่าถูกคิดเงินเกินราคา หรือถูกโกง หรืออาจจะรู้ตัวเมื่อสายเกินไป หรืออาจเป็นได้ว่ารู้สึกอับอายเกินกว่าที่จะมาโต้เถียงกับคนขับทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าถูกโกง จึงเลือกที่จะจ่ายเงินไปเสีย แล้วคิดว่าเป็น “ภาษีนักท่องเที่ยว”ปัจจุบันได้มีการเข้มงวดขี้นและดีขี้นกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ไม่ได้หมายความว่ากลโกงต่างๆจะหมดไป

นอกจากแท็กซี่จะเรียกค่าบริการในราคาที่สูง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่พบได้ทั่วๆ ไปแล้ว ยังมีวิธีการอื่นๆ ที่ยากจะจับได้ไล่ทัน เช่น โดยอัตราราคาแท็กซี่จะดูไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อคุณดูระยะทางที่เดินทางและราคารวมแล้ว มันไม่น่าจะถูกต้อง นั่นก็หมายความว่า คนขับแท็กซี่โกงมิเตอร์ด้วยการปรับอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งทำให้ค่าแท็กซี่สูงกว่าความเป็นจริง ดังนั้น คุณควรเช็คก่อนเดินทางว่าค่าแท็กซี่โดยประมาณน่าจะเป็นเท่าใด

อัตรามิเตอร์ที่ไม่ถูกต้อง - ระยะทางที่ใช้ในการเดินทางอาจจะดูถูกต้อง แต่กลับมีราคาสูงมาก บ่อยครั้งที่ราคาถูกเพิ่มขึ้นด้วย “ค่าธรรมเนียมสัมภาระ” หรือ “ค่าธรรมเนียมในการออกนอกเขตเมือง” ซึ่งคนขับจะบอกคุณว่าเป็นค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ควรมี เพราะเป็นการเหมาแล้ว


เงินทอน – คนขับจะบอกคุณว่า ขอโทษ ไม่มีเศษเงินที่จะทอนให้กับคุณ ซึ่งคนขับมักจะคิดว่าเงินทอนส่วนนั้นคือทิป หรืออาจจะทอนเงินให้คุณโดยใช้เงินสกุลอื่นๆ โดยหวังว่าคุณจะไม่ทราบว่าเงินของเช็กมีหน้าตาเป็นอย่างไร

พฤติกรรมฉ้อฉลอีกอย่างที่มักจะพบเรียกว่า “การนั่งรถชมวิว” อัตราค่าแท็กซี่และระยะทางถูกต้องตามจริง แต่คุณต้องนั่งรถไกลกว่าความเป็นจริงมากมาย เนื่องจากคนขับตั้งใจขับอ้อมเพื่อทำให้คุณต้องจ่ายเพิ่มขึ้นกว่าเดิม

ยังมีกรณีอื่นๆ เช่น คนขับแท็กซี่บางคนส่งผู้โดยสารผิดโรงแรม ซึ่งอาจจะเป็นด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ได้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ผู้โดยสารจะต้องจ่ายมากกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น ทางที่ดีคุณควรบอกที่ตั้งของโรงแรมด้วย ไม่ใช่บอกเฉพาะแค่ชื่อโรงแรม เนื่องจากหลายโรงแรมเลยทีเดียวที่มีอยู่ 2-3 แห่งภายใต้ชื่อแบรนด์เดียวกัน

แนะนำ ใช้บริการขนส่งมวลชน ซึ่งราคาประหยัด สะดวก และรวดเร็ว

ระวังกลโกงจากร้านอาหาร

กลโกงจากร้านอาหารในกรุงปราก

แม้ว่าทุกวันนี้สถานการณ์ในปัจจุบันจะดีขึ้นกว่าเมื่อสิบปีก่อนมากแล้ว แต่คุณก็ยังควรจะต้องระวังเรื่องนี้อยู่และจะต้องตรวจสอบใบเสร็จให้รอบคอบ เพื่อจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ

กลโกงที่พบได้บ่อยที่สุดคือการคิดเงินของที่ขอเพิ่มอย่างพวกซอส ขนมปัง ขนมปังก้อน แยม เนย ชีส หรือเพรทเซลที่อยู่บนโต๊ะ ปกติแล้วจะมีการระบุไว้ในเมนูว่าราคาอาหารที่แสดงไว้ว่าไม่รวมขนมปัง แต่มักจะเป็นตัวอักษรเล็กๆ ที่มองเห็นได้ค่อนข้างยาก  แต่ส่วนมากมักจะมีราคาระบุอยู่ในเมนูอยู่แล้ว แต่ลูกค้าไม่ได้อ่านเอง หรืออ่านไม่ออกก็เลยไม่ได้สนใจ  วิธีรับมือที่ง่ายที่สุดก็คือ ถ้าคุณไม่ต้องการจะจ่ายเงินสำหรับของพวกนี้ ก็ขอให้พนักงานเก็บออกไปเสีย ถึงแม้ว่าคุณไม่ได้กินเลยแม้แต่น้อย แต่ถ้าอาหารเหล่านี้อยู่บนโต๊ะของคุณ คุณก็จะต้องชำระเงิน แม้ว่าจะไม่ได้กินก็ตาม เรื่องนี้มักไม่ค่อยเกิดขึ้นในภัตตาคารระดับสูงๆ

ใบเสร็จแบบไม่จำแนกรายการที่เขียนด้วยลายมือ - ถ้าคุณไม่ได้รับใบเสร็จที่จำแนกรายการ ให้คุณคำนวณราคาคร่าวๆ และหากมีข้อสงสัยให้ขอใบเสร็จแบบแยกรายการจากพนักงาน ส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดกรณีแบบนี้ในผับมากกว่าตามร้านอาหาร

กลโกงในใบเสร็จที่จ่ายร่วมกันหลายๆ คน: ถ้าคุณจะต้องจ่ายใบเสร็จสำหรับคนจำนวนมากๆ จึงค่อนข้างง่ายที่จะมีรายการที่คิดเกินเพิ่มเข้ามา หรืออาจคิดราคาผิด เช่น คุณควรต้องจ่าย 462 คราวน์ แต่ทางร้านคิดเงินเป็น 562 คราวน์ ทางที่ดีเวลาสั่งอาหารให้สังเกตุราคาแล้วถามราคาให้แน่นอน บางครั้งระบุราคาไว้ พร้อมกับบอกปริมาณ แต่ถ้าหากว่ามีปริมาณเพิ่มขี้นจากที่กำหนดในเมนูเขาจะคิดราคาเพิ่ม ซึ่งจะระบุเป็นหมายเหตุเอาไว้

กลโกงจากค่าบริการ: ตามกฎหมายเช็ก ใบเสร็จจะต้องรวมค่าบริการไว้ด้วยอยู่แล้ว แต่ไม่รวมทิปที่ลูกค้าอาจจะให้ต่างหาก ดังนั้น จำนวนทั้งหมดในใบเสร็จจะรวมค่าบริการ 10% ไว้แล้ว บางครั้ง ร้านอาหารอาจพยายามทำให้ลูกค้าเชื่อว่าจะต้องจ่ายเพิ่มอีก 10%

การริบเงินทอน เคยมีกรณีที่จ่ายเงินแล้วไม่มีการทอนเงินเพราะลูกค้าพูดว่าโอเค ทำให้พนักงานเข้าใจว่าไม่ต้องทอน ซึ่งอาจจะเป็นเพียงข้อแก้ตัว ทางที่ดีไม่ควรพูดหรือทำให้พนักงานเข้าใจว่าเราไม่ต้องการเงินทอน

การสูบบุหรี่ในสาธารณรัฐเช็ก

การสูบบุหรี่

ประเทศสาธารณรัฐเช็กมีการบังคับใช้กฎหมายจำกัดการสูบบุหรี่ ประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งคือการห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะ (บนชานชาลา ป้ายหยุดรถ สถานีรถไฟ บนรถสาธารณะและในสถานบันเทิง)

 เจ้าของร้านอาหารจะต้องจัดพื้นที่สำหรับลูกค้าที่ไม่สูบบุหรี่ (ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่แยกส่วนกันหรือกำหนดเวลาในการให้บริการที่ห้ามสูบบุหรี่) ห้ามจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของยาสูบให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี

การฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบ ให้สังเกตุดูป้ายห้ามสูบ หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับเป็นเงิน 1000 kc ถ้าโดนปรับเป็นครั้งแรกอาจมีการอนุโลมให้เสียค่าปรับ ประมาณ 100 kc  แทน ขึ้นอยู่กับการเจรจากับเจ้าหน้าที่ซึ่งเขาจะดูว่าเราตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ

วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ถามตอบเรื่องสัญชาติและนิติกรณ์

คำถาม
· ขอทราบที่ตั้งของกองสัญชาติฯ และเวลาที่เปิดบริการรับรองเอกสาร

· การแปลเอกสารจะต้องแปลโดยร้านหรือบริษัทแปลที่กระทรวงฯ รับรองหรือไม่ ?

· เอกสารประกอบการมารับรองเอกสารมีอะไรบ้าง ?

· กองสัญชาติฯ รับรองคำแปลภาษาอะไรบ้าง ?

· ถ้าจะนำเอกสารไปประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส, เยอรมัน และอิตาเลียน จะทำอย่างไร ?

· การรับรองสำเนาถูกต้องจะต้องทำอย่างไร ?

· การแต่งงานกับคนต่างชาติจะต้องทำอย่างไรบ้าง ?

· จะนำสูติบัตรของเด็กแรกเกิด และเด็กที่ยังไม่มีบัตรประชาชนมารับรอง จะต้องมีเอกสารประกอบอะไรบ้าง ?

· จะนำ Certificate of Origin (C/O) และ Invoice มารับรอง จะต้องนำอะไรมาบ้าง ?

· เอกสารที่บริษัทเอกชนทั่วไปออกเองเพื่อนำไปใช้ในต่างประเทศ เช่น หนังสือมอบอำนาจ จะต้องรับรองอย่างไร ?

· จะขอรับรองเอกสารทางไปรษณีย์ได้หรือไม่ ?

· บัตรประชาชนมีอายุกี่ปี

· หากบิดาเป็นคนไทย มารดาเป็นคนต่างด้าวและไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน บุตรที่เกิดนอกราชอาณาจักร จะได้สัญชาติไทย หรือไม่ ?

· คนไทยเมื่อแปลงชาติเป็นคนต่างด้าวแล้ว จะเสียสัญชาติไทยโดยทันทีหรือไม่ ?

· ผู้เยาว์ซึ่งอายุยังไม่ถึง 20 ปี สามารถขอสละสัญชาติไทยด้วยตนเองได้หรือไม่ ? หากไม่ได้ จะให้มารดาเป็นผู้ขอสละสัญชาติแทนได้หรือไม่ ?

· เด็กซึ่งมีสองสัญชาติเนื่องจากมารดาไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ และอาศัยอยู่ในต่างประเทศจะต้องเกณฑ์ทหารหรือไม่ ?

· การได้สัญชาติย้อนหลังคืออะไร ?

· บุคคลที่มีสิทธิได้สัญชาติไทยมาแจ้งเกิดเมื่ออายุเกิน 20 ปีแล้ว สถานทูตจะรับแจ้งเกิดได้หรือไม่ ? และจะถือว่าเป็นการเลือกสัญชาติหรือไม่ ?

· ชายและหญิงที่เป็นคนต่างชาติจะสามารถจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายไทยได้หรือไม่ ?

· ชายหญิงต่างชาติที่จดทะเบียนสมรสกันในประเทศไทย หากต้องการหย่าจะกระทำ ณ สถานทูตไทย ได้หรือไม่ ?

· หากคนไทยด้วยกัน หรือคนไทยกับคนต่างชาติต้องการจดทะเบียนฯ ในต่างประเทศจะต้องจดทะเบียนตามกฎหมายไทย หรือตามกฎหมายต่างชาติ ?

· คนไทยสมรสกับคนต่างชาติตามกฎหมายของชาวต่างชาตินั้น หากจะหย่าสามารถจดทะเบียนหย่า ณ สถานทูตไทยได้หรือไม่ ?

· คนไทยสมรสกับคนต่างชาติตามกฎหมายของประเทศคู่สมรส หากต้องการให้บันทึกสถานะการสมรสของตนในประเทศไทยกระทำได้หรือไม่ ?

· การจดทะเบียนสมรส หรือหย่าในต่างประเทศ คู่สมรส หรือคู่หย่า จะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าหน้าที่สถานทูต แต่ส่งเอกสารทางไปรษณีย์ไปมาระหว่างกันได้หรือไม่ ?

· การออกหนังสือรับรองความเป็นโสดสามารถกระทำได้หรือไม่ ?

· หญิงไทยที่สมรสกับคนต่างชาติจะสามารถใช้ชื่อสกุลของตนเองเป็นชื่อรองได้หรือไม่ ?

· ในบางประเทศ ภาษาของประเทศนั้นแสดงถึงเพศชาย หญิง เช่น ในประเทศโปแลนด์ คำว่า Przoerska กับ Przoerski ถือว่าเป็นคำเดียวกัน แต่คำที่ลงท้ายด้วย a จะใช้กับเพศหญิง และคำที่ลงท้ายด้วย i จะให้กับเพศชาย ในกรณีเช่นนี้ เมื่อหญิงไทยแต่งงานกับชายผู้นั้นแล้ว หากจะ

· คนไทยที่สมรสกับคนต่างชาติจะถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือห้องชุดได้หรือไม่ ?

· สถานทูตสามารถออกสูติบัตรให้แก่บุตรของคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย ได้หรือไม่ ?

· กรณีบิดามารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน การออกสูติบัตรควรระบุคำว่า "ไม่ปรากฏบิดาที่ชอบด้วยกฎหมาย" หรือ "บิดามารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรส" หรือไม่ ?

· ในการออกสูติบัตร เด็กจะใช้นามสกุลของมารดา หรือบิดา ?

· บิดาและมารดา ไม่ได้จดทะเบียนฯ กันบุตรจะใช้นามสกุลของบิดา ได้หรือไม่ ?

· ในการแจ้งเกิดสามารถใช้ชื่อเป็นสำเนียงภาษาต่างประเทศได้หรือไม่ ? และสามารถนำชื่อสกุลมารดาเป็นชื่อรองได้หรือไม่ ?

· หากบิดาเป็นชาวจีนบุตรต้องใช้คำว่า "แซ่" หน้านามสกุลหรือไม่ ?

· ชายไทยที่นับถือศาสนาอิสลามจะตั้งชื่อเป็นสำเนียงอาหรับ หรือมีชื่อเหมือนกับบุคคลหรือถ้อยคำในคัมภีร์อัลกุรอานได้หรือไม่ ?

· หากบิดามารดาจดทะเบียสมรส กันภายหลังมีบุตรแล้วบุตรนั้นจะกลายเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่เมื่อใด ?

· สถานทูตได้ออกสูติบัตรให้แก่ผู้ร้อง ต่อมาผู้ร้องพบว่ามีรายการในสูติบัตรผิดพลาดและผู้ร้องนั้นได้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในไทยแล้ว การแก้ไขรายการที่ผิดพลาดนี้จะกระทำที่สถานทูตหรือที่ใด ?

· ผู้ร้องนำเด็กซึ่งเป็นผู้เยาว์และไร้เดียงสา ซึ่งยังสื่อความหมายไม่ได้มาจดทะเบียนรับรองบุตร นายทะเบียนจะจดทะเบียนรับรองบุตรได้หรือไม่ ?

· เมื่อสถานทูตจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมแล้วจะเปลี่ยนชื่อสกุลในหนังสือเดินทางของบุตรบุญธรรมได้ทันทีหรือไม่ ?

· บิดามารดาหย่ากัน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถยกบุตรให้เป็นบุตรบุญธรรมผู้อื่น ได้หรือไม่ ?

· การขอรับเด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยเป็นบุตรบุญธรรมกระทำได้หรือไม่ ?

· การแก้ไขนามสกุลของผู้ที่เป็นบุตรบุญธรรมจะกระทำได้โดยวิธีใด ?

· ศาลต่างประเทศพิพากษาให้ผู้เยาว์ไทยเป็นบุตรบุญธรรมของชาวต่างชาติโดยไม่ได้เป็นไปตามกฎหมายไทย ได้หรือไม่ ?

· หญิงซึ่งมีบุตรโดยมิได้จดทะเบียนสมรส และยังใช้คำนำหน้าชื่อตนเองว่า "นางสาว" หากต้องการยื่นคำร้องขอแก้ไขเอกสารทางราชการของบุตร จำต้องขอเปลี่ยนคำนำหน้าจาก "นางสาว" เป็น "นาง" ก่อนหรือไม่ ?

· บุคคลต่างด้าว ซึ่งมีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในไทย เสียชีวิตในต่างประเทศ โดยใบสำคัญถิ่นที่อยู่และเอกสารเดินทางสำหรับคนต่างด้าวหมดอายุ สถานทูตจะออกมรณบัตรให้ได้หรือไม่ ?

· คนสัญชาติไทย ซึ่งอาศัยอยู่ต่างประเทศแต่ได้แจ้งต่อทางการประเทศนั้นว่าตนมีสัญชาติอื่นที่มิใช่สัญชาติไทย หากผู้นั้นเสียชีวิตลง ญาติของผู้นั้นจะให้ สอท. / สกญ. ออกมรณบัตรได้หรือไม่ ?

· คนต่างด้าวสามารถถือกรรมสิทธิ์ที่ดินในประเทศไทยได้เพียงใด ?

· คนไทยที่สมรสกับคนต่างชาติจะถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือห้องชุดได้หรือไม่ ?

· บุคคลสัญฃาติไทยที่มีคู่สมรสเป็นคนต่างชาติและพำนักอยู่ในต่างประเทศ จะขอซื้อที่ดิน หรือขอรับโอนที่ดิน หรือ ขอซื้อห้องชุด ได้หรือไม่ ?

· ทำอย่างไร ?

· ชาวต่างชาติจะขอรับใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศของไทย จะต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง ?

· ใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศมีอายุกี่ปี ต่ออายุได้หรือไม่ ?

· ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ทำใบขับขี่ไทย ได้หรือไม่ ?

· ทำอย่างไร ? ชาวต่างชาติจะทำใบขับขี่ไทยได้

· จะต้องดำเนินการอย่างไร ?

· การรับบุตรบุญธรรมภายใต้กฎหมายต่างชาติสามารถเปลี่ยนนามสกุลเด็กไทยให้เป็นนามสกุลผู้รับ ชาวต่างชาติได้หรือไม่ ?

· การรับบุตรบุญธรรม รับได้เฉพาะผู้เยาว์มาเป็นบุตรใช่หรือไม่ ?

กรมการกงศุลไทย

บริการประชาชน

ศูนย์บริการร่วม
หนังสือเดินทาง
สถานที่ให้บริการหนังสือเดินทาง
การตรวจลงตราและ
เอกสารเดินทางฯ
สัญชาติและนิติกรณ์
(การรับรองเอกสารและงานทะเบียนราษฎรคนไทยในต่างประเทศ)(Legalization Service)
คุ้มครองและดูแลผล
ประโยชน์
เลือกตั้งนอกราช
อาณาจักร


บริการออนไลน์ :
สำรองคิวทำหนังสือเดินทาง
ขอความช่วยเหลือ
ลงทะเบียนคนไทย
ในต่างแดน


แบบฟอร์ม :

แบบฟอร์มคำร้องขอรับรองเอกสาร ตัวอย่างการแปลเอกสารและคำศัพท์
คำร้องนิติกรณ์
หนังสือให้ความยินยอม
ขอใช้สิทธิ/เปลี่ยนแปลงสิทธิเลือกตั้ง
หนังสือแจ้งเหตุที่ไม่
ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
ขอรับการตรวจลงตรา
หนังสือมอบอำนาจ


 
คู่มือถาม - ตอบ


สาระน่ารู้ก่อนเดินทาง


แบบฟอร์มขอวีซ่าแซงเก้นท์รุ่นแปลเป็นภาษาไทย

ตัวอย่างแบบฟอร์มรุ่นภาษาไทย สำหรับขอวีซ่าแชงเก็น
เอาไว้ดูประกอบการกรอกเอกสารเท่านั้น






วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2554

จดทะเบียนสมรสภายใต้กฏหมายสาธารณรัฐเช็ก

การจดทะเบียนสมรสภายใต้กฏหมายสาธารณรัฐเช็ก




บุคคลสัญชาติไทยซึ่งประสงค์จะจดทะเบียนสมรสกับบุคคลสัญชาติเช็ก กฎหมายของสาธารณรัฐเช็กกำหนดให้ต้องนำหลักฐาน ดังต่อไปนี้ ไปแสดงต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น

• สูติบัตรไทย

• บัตรประจำตัวประชาชนของไทย

• หนังสือรับรองความเป็นโสด

• ทะเบียนบ้านไทย

• มรณบัตรของคู่สมรสเดิม (ไม่จำเป็นต้องยื่น หากมีหนังสือรับรองความเป็นโสดไปแสดง)

• หนังสือเดินทาง ซึ่งมีวีซ่าให้อยู่ในสาธารณรัฐเช็กได้เกินกว่า 7 วัน

หลักฐานทั้งหมด ต้องผ่านการรับรองเอกสารจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตไทย และแปลเป็นภาษาเช็ก โดยผู้แปลซึ่งได้รับการรับรองจากรัฐบาลเช็กในวันจดทะเบียนสมรส สำนักทะเบียนท้องถิ่นของเช็กบางแห่งอาจกำหนดให้คู่สมรสต้องจัดหาล่ามภาษาเช็ก-ไทย ไปพร้อมกับคู่สมรส ณ สถานที่จดทะเบียนสมรสด้วย เพื่อทำหน้าที่แปลถ้อยแถลงเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ของคู่สมรสที่เป็นคนไทยได้รับทราบ อนึ่ง เอกสารดังกล่าวข้างต้น เป็นเพียงเอกสารเบื้องต้น ซึ่งเจ้าพนักงานที่จดทะเบียนสมรส

อาจเรียกเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติมได้ โดยคู่สมรสควรติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากหน่วยงาน ที่ประสงค์จะไปจดทะเบียนสมรสก่อน

คุณสมบัติของผู้ที่จะจดทะเบียนสมรส

• ต้องไม่เป็นคู่สมรสของบุคคลอื่น

• ต้องไม่เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดา หรือต่างบิดามารดา หรือบุตรบุญธรรม

• ต้องอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ยกเว้น มีคำสั่งศาลให้จดทะเบียนสมรสได้

• ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต หรือศาลสั่งให้ไร้ความสามารถสิทธิจากสมรส

• เมื่อจดทะเบียนสมรสแล้ว คู่สมรสที่เป็นชาวไทย จะต้องแจ้งการจดทะเบียนสมรสต่อตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของเช็ก จากนั้นจะได้รับสิทธิพำนักระยะยาว (Long TermResidence) ในฐานะภริยา/สามีของบุคคลสัญชาติเช็ก โดยจะมีสิทธิพำนักและทำงานในสาธารณรัฐเช็กจนกว่าสถานะการสมรสจะสิ้นสุดลง

• ตามกฏหมายเข้าเมืองใหม่ของเช็ก ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 คนต่างด้าวที่สมรสกับคนเช็ก จะไม่ได้รับสิทธิมีถิ่นพำนักถาวร (Permanent Residence) โดยอัตโนมัติแต่จะได้รับวีซ่าพำนักระยะยาว เป็นเวลา 2 ปี ก่อน จึงจะมีสิทธิยื่นขอมีถิ่นพำนักถาวรได้โดยผู้ที่ยื่นขอสิทธิดังกล่าวจะต้องผ่านการทดสอบความรู้ภาษา

เช็กด้วย พันธะผูกพันภายใต้กฏหมายไทย

• เมื่อจดทะเบียนสมรสภายใต้กฎหมายสาธารณรัฐเช็กแล้ว ไม่ต้องจดทะเบียนสมรสภายใต้กฎหมายไทยอีก โดยสามารถนำทะเบียนสมรสของเช็ก ไปผ่านการรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศเช็ก แปลเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาไทย นำมาให้สถานเอกอัครราชทูตฯ

รับรอง จากนั้นนำไปให้กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศไทย รับรองอีกชั้นหนึ่งแล้วจึงแปลเป็นภาษาไทย (ในกรณีที่คำแปลเดิมเป็นภาษาอังกฤษ) นำไปยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสถานะครอบครัว ณ อำเภอท้องที่ที่มีภูมิลำเนาอยู่

• ตามพระราชบัญญัติคำนำหน้านามหญิง พ.ศ.2551 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2551

หญิงที่สมรสแล้ว สามารถเลือกใช้คำนำหน้านามว่า “นาง” หรือ “นางสาว” ได้ตามความสมัครใจ

โดยต้องแจ้งต่อนายทะเบียนอำเภอท้องที่ในวันที่ไปยื่นขอจดทะเบียนสถานะครอบครัว

• กรณีมีการเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ และ/หรือนามสกุล (หากเปลี่ยนไปใช้นามสกุลสามี)จะต้องดำเนินการเปลี่ยนบัตรประชาชน ณ อำเภอท้องที่ที่มีภูมิลำเนาอยู่ ในคราวเดียวกันด้วย

• การเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ในหนังสือเดินทางแบบใหม่ (อิเล็กทรอนิกส์) ไม่สามารถกระทำได้หากประสงค์จะเปลี่ยนชื่อ-สกุลให้สอดคล้องกับทะเบียนสมรส ผู้ร้องต้องดำเนินการบันทึก

สถานะครอบครัวและเปลี่ยนบัตรประชาชนก่อน จึงจะขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ที่กระทรวงการต่างประเทศ หรือสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้

• ยกเว้นกรณี ถือหนังสือเดินทางแบบเก่า ที่ยังไม่หมดอายุ สถานเอกอัครราชทูตฯ อาจพิจารณาแก้ไขชื่อ-สกุลในหนังสือเดินทางให้ได้โดยอนุโลม แต่ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่คนไทยในต่างประเทศในระยะสั้นเท่านั้น

และผู้ร้องจะต้องรีบไปดำเนินการจดทะเบียนสถานะครอบครัว เปลี่ยนบัตรประชาชน พร้อมทั้งขอมีหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ให้ถูกต้อง โดยทันทีที่เดินทางกลับประเทศไทย

การขอต่อวีซ่า ในกรณีผู้ร้องพำนักและทำงานอยู่ในสาธารณรัฐเช็ก

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการขอต่อวีซ่า ในกรณีผู้ร้องพำนักและทำงานอยู่ในสาธารณรัฐเช็ก

การขอต่ออายุวีซ่า ต้องยื่นคำร้องต่อสำนักงาน Foreign Police ที่กรุงปราก หรือในเมืองที่ผู้ร้องมีถิ่นพำนักอยู่ ระหว่าง 90-14 วัน ก่อนวีซ่าปัจจุบันหมดอายุ โดยกรอกแบบฟอร์มคำร้องและยื่นเอกสารดังต่อไปนี้

1. หนังสือเดินทางที่มีอายุไม่น้อยกว่า 1 ปี

2. เอกสารยืนยันวัตถุประสงค์ในการพำนักอยู่ในสาธารณรัฐเช็ก อาทิ ใบอนุญาตทำงาน (work permit) หรือ ใบทะเบียนสมรส หรือ เอกสารรับรองจากสถานศึกษา เป็นต้น

3. หลักฐานการเงิน อาทิ บัญชีธนาคาร หรือหนังสือรับรองเงินเดือน

4. หนังสือรับรองสถานที่พัก อาทิ สัญญาเช่าบ้าน หนังสือรับรองหอพักจากมหาวิทยาลัย หรือหนังสือรับรองจากนายจ้างว่าเป็นผู้จัดหาสถานที่พัก

5. หนังสือรับรองไม่มีประวัติอาชญากรรม (ดูหมายเหตุ)

6. ภาพถ่ายขนาด passport size 2 ใบ

7. บัตรประกันสุขภาพ และประกันสังคม

8. ค่าธรรมเนียม 1,000 คอรูน่า

การขอหนังสือรับรองไม่มีประวัติอาชญากรรมของเช็ก เอกสารประกอบคำร้อง ได้แก่ หนังสือเดินทาง และสูติบัตร โดยสูติบัตร ต้องผ่านการรับรองจากกรมการกงสุลของไทย และสถานเอกอัครราชทูตไทย ก่อนแปลเป็นภาษาเช็ก ด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจทำงานในสาธารณรัฐเช็ก

สาระประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจทำงานในสาธารณรัฐเช็ก

1. การขอวีซ่า และใบอนุญาตทำงาน (Employment Permit)

1.1 รัฐบาลเช็กกำหนดให้คนต่างชาติที่ประสงค์จะทำงานในเช็ก จะต้องได้รับใบอนุญาตทำงานก่อน โดยยื่นเรื่องขอใบอนุญาตทำงาน ณ สำนักงานแรงงานเขตพื้นที่ที่สถานที่ทำงานตั้งอยู่ (ในกรณีบุคคลผู้นั้นอาศัยอยู่ในสาธารณรัฐเช็กแล้ว) หรือ สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่น หรือนายจ้างเป็นผู้ดำเนินการแทนก็ได้ (ในกรณีที่พำนักอยู่นอกสาธารณรัฐเช็ก) โดยเสียค่าธรรมเนียม 500 คอรูน่า (Koruna)

1.2 ในกรณีที่ได้รับใบอนุญาตทำงานเรียบร้อยแล้ว โดยที่ผู้ประสงค์ทำงานยังคงพำนักอยู่ในประเทศไทย ให้นายจ้างหรือบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจ ส่งใบอนุญาตทำงานมาให้เพื่อดำเนินการขอ วีซ่า ณ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทย ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูตฯ จะออก วีซ่าระยะยาว (residence visa) ไม่เกิน 1 ปี ให้ และเมื่อผู้ทำงานเดินทางเข้าไปยังสาธารณรัฐเช็กแล้ว จะต้องไปรายงานตัวต่อสำนักงานตำรวจกิจการคนต่างด้าว (Foreign Police) ภายใน 3 วัน เพื่อแจ้งสถานที่พักอาศัยและที่ทำงานให้ทางการเช็กทราบ

หมายเหตุ สถานเอกอัครราชทูตเช็กสงวนสิทธิในการไม่อนุมัติวีซ่า แม้ว่าผู้ยื่นขอจะได้รับใบอนุญาตทำงานแล้วก็ตาม ซึ่งในกรณีนี้จะถือว่าใบอนุญาตทำงานที่ได้รับเป็นโมฆะ

1.3 เอกสารที่ใช้ประกอบการยื่นขอใบอนุญาตทำงาน ได้แก่

- สำเนาหนังสือเดินทาง

- ต้นฉบับวุฒิการศึกษาที่สอดคล้องกับคุณสมบัติของตำแหน่งงานที่จะทำ พร้อมสำเนาซึ่งรับรองโดยกระทรวงการต่างประเทศไทย

- หนังสือจ้างงานจากนายจ้าง

- ใบตรวจสุขภาพ ซึ่งมีอายุไม่เกิน 1 เดือน

ทั้งนี้ เอกสารทั้งหมดหากเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ จะต้องแปลเป็นภาษาเช็กด้วย

2. การเดินทางออกจากประเทศไทย

ระเบียบกรมการจัดหางาน กำหนดให้ผู้ที่จะไปทำงานต่างประเทศ จะต้องรายงานตัวเพื่อแจ้งการเดินทางและขอรับอนุญาตออกนอกประเทศจากกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานของไทยเสียก่อน โดยควรไปติดต่อล่วงหน้าก่อนเดินทางประมาณ 1 สัปดาห์ โดยต้องนำสัญญาจ้างงานซึ่งผ่านการรับรองเอกสารจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐเช็กไปแสดงต่อเจ้าพนักงานแรงงาน พร้อมกับเอกสารประจำตัวอื่นๆ ด้วย

3. ใบอนุญาตทำงาน

3.1 ใบอนุญาตทำงานจะมีอายุไม่เกิน 1 ปี และสามารถต่ออายุได้ โดยเสียค่าธรรมเนียม 250 คอรูน่า/ครั้ง

3.2 ใบอนุญาตทำงานเป็นเอกสารที่ออกให้เฉพาะตัว ไม่สามารถโอนสิทธิได้

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก 2

3.3 หากเงื่อนไขในการขอใบอนุญาตมีการเปลี่ยนแปลงไป ได้แก่ เปลี่ยนสถานที่ทำงานเปลี่ยนนายจ้าง หรือเปลี่ยนประเภทของงานที่ทำ จะต้องขอใบอนุญาตทำงานใหม่ทุกกรณี แม้ว่าใบอนุญาตฉบับเดิมยังไม่หมดอายุก็ตาม

3.4 หากนายจ้างยกเลิกสัญญาก่อนที่ใบอนุญาตทำงานหมดอายุ ให้ถือว่าใบอนุญาตทำงานและวีซ่าหมดอายุไปโดยปริยาย อย่างไรก็ดี ลูกจ้างยังคงมีสิทธิพำนักอยู่ในสาธารณรัฐเช็กต่อไปอีก 1 เดือน หากสามารถหางานใหม่ ก็สามารถให้นายจ้างคนใหม่ดำเนินการต่อวีซ่าและขอใบอนุญาตทำงานใหม่ได้ โดยไม่ต้องเดินทางกลับ

3.5 ลูกจ้างที่ได้รับการต่ออายุใบอนุญาตทำงานแล้ว จะต้องรายงานตัวต่อสำนักงานตำรวจกิจการคนต่างด้าวภายใน 14 วัน เพื่อขอรับการต่ออายุวีซ่า

3.6 เอกสารประกอบการขอต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ได้แก่

- สำเนาหนังสือเดินทาง

- ต้นฉบับวุฒิการศึกษาที่สอดคล้องกับคุณสมบัติของตำแหน่งงานที่จะทำ พร้อมสำเนาซึ่งรับรองโดยกระทรวงการต่างประเทศไทย

- หนังสือรับรองการจ้างงานต่อจากนายจ้าง

ทั้งนี้ เอกสารทั้งหมดหากเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ จะต้องแปลเป็นภาษาเช็กด้วย

3.7 หากทางการเช็กตรวจพบว่าลูกจ้างทำงานลักลอบทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน จะต้องเสียค่าปรับ 10,000 คอรูน่า ส่วนนายจ้างจะต้องเสียค่าปรับ 2 ล้านคอรูน่า

4. ค่าจ้างแรงงาน

4.1 ค่าแรงขั้นต่ำของเช็กจะต้องไม่ต่ำว่า 8,000 คอรูน่า (ประมาณ 16,000 บาท ที่อัตรา) โดยกำหนดชั่วโมงทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมง/สัปดาห์ อย่างไรก็ดี ในกรณีที่เป็นการจ้างงานระยะสั้น นายจ้างและลูกจ้างสามารถตกลงที่จะคำนวณค่าจ้างเป็นรายชั่วโมงได้

4.2 ค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำดังกล่าว จะต้องไม่รวมค่าล่วงเวลา และเงินเพิ่มพิเศษอื่นๆ

ยกเว้นนายจ้างและลูกจ้างจะตกลงร่วมกันให้รวมค่าล่วงเวลาไว้ในค่าแรง แต่ทั้งนี้ ในสัญญาจะต้องระบุให้ชัดเจนถึงจำนวนชั่วโมงล่วงเวลาที่จะให้รวมไว้ในค่าแรง และนายจ้างจะต้องจ่ายค่าล่วงเวลาตามปกติหากลูกจ้างทำงานเกินกว่าจำนวนชั่วโมงที่ตกลงไว้ในสัญญา

4.3 ในแต่ละเดือนลูกจ้างมีภาระที่จะต้องจ่ายเงินประกันสังคม ร้อยละ 8 และค่าประกันสุขภาพอีกร้อยละ 4.5 ในขณะที่นายจ้างจะจ่ายสมทบอีกร้อยละ 26 และร้อยละ 9 ตามลำดับ และเมื่อครบปี จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ระหว่างร้อยละ 15-19 ตามฐานเงินเดือนด้วย อย่างไรก็ดี นายจ้างบางรายจะตกลงกับลูกจ้าง โดยนายจ้างจะรับผิดชอบการจ่ายค่าประกันสังคมและภาษีต่างๆ แทนลูกจ้าง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก 3

5. สัญญาจ้างงานและการสิ้นสุดแห่งสัญญา

5.1 ทางการเช็กกำหนดให้สัญญาจ้างงานที่มีการลงนามแต่ละครั้ง จะต้องมีอายุไม่เกิน 2 ปี โดยในสัญญาจะต้องประกอบด้วยรายละเอียดพื้นฐานที่จะเป็นประโยชน์ต่อลูกจ้าง ดังนี้

- ต้องระบุระยะเวลาที่สัญญาเริ่มต้นและสิ้นสุด

- ต้องระบุประเภทของงาน ค่าจ้างและเงื่อนไขการจ่ายค่าแรง รวมทั้ง จำนวนชั่วโมงทำงาน ค่าล่วงเวลา และสิทธิในการลาพักผ่อน

- ต้องระบุสถานที่ทำงานให้ชัดเจน

- ในบางกรณีนายจ้างอาจระบุเงื่อนไขในการจัดหาที่พัก การออกค่าบัตรโดยสารเครื่องบินไว้ด้วย

5.2 ทั้งนี้ สัญญาว่าจ้างที่มีระยะเวลาการทำงานเกินกว่า 1 เดือน จะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร สำหรับงานที่มีระยะเวลาน้อยกว่า 1 เดือน จะทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้

5.3 หากปรากฏว่าในสัญญาการจ้างงานมิได้ระบุรายละเอียดพื้นฐาน นายจ้างมีหน้าที่จะต้องแจ้งให้รายละเอียดที่ขาดไปให้ลูกจ้างทราบเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 1 เดือน นับแต่ได้มีการลงนามในสัญญา

5.4 การทดลองงาน จะต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน และจะต้องทำเป็นหนังสือจ้างงานระหว่างนายจ้างและลูกจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรเช่นเดียวกัน

5.5 อย่างไรก็ดีลูกจ้างสามารถยุติสัญญาได้ก่อนครบกำหนด ในกรณีดังนี้

5.5.1 นายจ้างและลูกจ้างตกลงร่วมกัน โดยทำเป็นหนังสือยุติสัญญา

5.5.2 มีปัญหาสุขภาพ ซึ่งแพทย์รับรองว่าเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน และนายจ้างไม่สามารถเปลี่ยนงานในตำแหน่งที่เหมาะสมให้แก่ลูกจ้างได้

5.5.3 นายจ้างไม่ได้จ่ายค่าแรงภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ครบกำหนดจ่ายค่าแรง

5.6 นายจ้างจะไม่สามารถยุติสัญญากับลูกจ้างได้ หากเข้าข่ายดังนี้

5.6.1 ลูกจ้างไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากป่วย ซึ่งเป็นอาการป่วยเพียงชั่วคราว

5.6.2 เมื่อลูกจ้างหญิงอยู่ระหว่างตั้งครรภ์ และลาพักผ่อนเพื่อเลี้ยงดูบุตรที่มีอายุต่ำกว่า 3 ขวบ ( pregnancy and maternity leave) นายจ้างจะต้องเก็บตำแหน่งงานไว้ให้ลูกจ้างจนครบกำหนด 2 ปี แต่ไม่ต้องจ่ายค่าแรงให้แก่ลูกจ้าง

5.7 หากนายจ้างเป็นฝ่ายยุติสัญญาจ้างก่อนกำหนด โดยที่ลูกจ้างมิได้กระทำผิดเงื่อนไขในสัญญาจ้าง ลูกจ้างมีสิทธิที่จะได้รับเงินชดเชยเป็นจำนวน 2 เท่าของเงินเดือนด้วย

5.8 ลูกจ้างมีสิทธิได้รับวันลาพักผ่อนตามกฏหมายแรงงาน คือ 1 เดือนต่อปี หากลูกจ้างใช้วันลาพักผ่อนไม่หมด ก่อนถูกเลิกจ้าง ลูกจ้างมีสิทธิขอรับการชดเชยวันลาที่ไม่ได้ใช้เป็นเงินแทนได้

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก 4

6. ข้อพึงระวังสำหรับแรงงานไทย

6.1 ควรตรวจสอบสัญญาจ้างงานโดยละเอียดจนเป็นที่พอใจ และไม่ควรลงนามในสัญญาภาษาเช็กหากไม่มีความรู้ความเข้าใจที่ดีพอ ควรให้นายจ้างแปลสัญญาเป็นภาษาอังกฤษเพื่อลงนาม ควบคู่ไปด้วย หากไม่เข้าใจอาจให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ช่วยแปลและให้คำแนะนำได้

6.2 แรงงานไทยต้องถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องรายงานการเดินทางถึงและกลับต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ตลอดจนแจ้งสถานที่ติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ เพื่อให้สถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถติดต่อ และให้การช่วยเหลือ กรณีเกิดปัญหาในระหว่างที่พำนักอยู่ในสาธารณรัฐเช็กได้

6.3 ในบางกรณี นายจ้างจะแจ้งจำนวนค่าแรงที่ตกลงจะจ่ายจริง กับที่ระบุไว้ในสัญญา ไม่ตรงกัน เนื่องจากต้องการลดภาระในการจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคม ซึ่งลูกจ้างไม่ควรหลงเชื่อ และควรยืนยันให้ระบุจำนวนเงินค่าจ้างในสัญญาให้ตรงตามที่นายจ้างตกลงจะจ่ายจริง เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาในภายหลัง และหากเกิดกรณีพิพาทด้านแรงงาน หน่วยงานของเช็กก็จะพิจารณาตามสัญญา ที่ลงนามเป็นลายลักษณ์อักษร ทำให้แรงงานไทยเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

6.4 สัญญาจ้างงานที่ดี ควรประกอบด้วย

- ระยะเวลาเริ่มและสิ้นสุดของสัญญา

- จำนวนชั่วโมงการทำงานต่อวัน หรือต่อสัปดาห์ ไม่เกิน 40 ชั่วโมง

- จำนวนเงินเดือน และวันจ่ายเงินเดือนที่แน่ชัด

- วันลาพักผ่อนตามสิทธิ (ไม่ต่ำกว่า 1 เดือน/ปี)

- ค่าล่วงเวลา กรณีทำงานเงินกว่าชั่วโมงทำงานที่กำหนด

- นายจ้างควรจัดหาที่พักให้แก่ลูกจ้าง

- บัตรโดยสารเครื่องบิน (ควรตกลงให้ชัดเจนว่าฝ่ายใดเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย)

- ผ่านการรับรองเอกสารจากสถานเอกอัครราชทูตฯ (กรณีลูกจ้างอยู่ที่ประเทศไทย ซึ่งในการรับรองสัญญาจ้างงาน จะเป็นประโยชน์ต่อตัวลูกจ้างเอง เนื่องจากสถานเอกอัครราชทูตฯ จะได้มีโอกาสตรวจสอบเนื้อหาของสัญญาจ ้างงาน และตรวจสอบการมีอยู่จริงของตำแหน่งงานแทนลูกจ้าง เพื่อช่วยป้องกันมิให้ลูกจ้างถูกเอารัดเอาเปรียบอีกทางหนึ่งด้วย)

6.5 เพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง ลูกจ้างควรเก็บหลักฐานเกี่ยวกับใบรับเงินเดือน การหักเงินเดือน สัญญาจ้างงาน และเอกสารที่เกี่ยวกับการทำงานทั้งหมด ถ่ายสำเนาไว้ด้วย เพื่อเป็นหลักฐานกรณีเกิดข้อพิพาทแรงงาน

*******************************

การเดินทางข้ามพรมแดน

ข้อแนะนำ/พึ่งระวังสำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศสมาชิก Schengen

(โดยเฉพาะการเดินทางโดยรถยนต์/รถไฟเข้าเยอรมันนีและออสเตรีย)

สถานทูตขอแจ้งเตือนสำหรับคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางโดยรถยนต์หรือรถไฟข้ามพรมแดนไปยังเยอรมันนี

และออสเตรีย ภายหลังสาธารณรัฐเช็กเข้าเป็นสมาชิกเชงเก้นวีซ่าโดยสมบูรณ์เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่า

จะมีการยกเลิกด่านตรวจตามแนวพรมแดนทั้งหมดแล้วก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่ตำรวจของเยอรมันและออสเตรีย

ยังคงมีอำนาจเรียกตรวจค้นเอกสารจากผู้เดินทางที่ข้ามพรมแดนเข้าไปในประเทศทั้งสองได้ตลอดเวลา

ดังนั้น เพื่อช่วยในการเตรียมตัวสำหรับคนไทยที่ประสงค์จะข้ามพรมแดน สถานทูตขอแจ้งข้อแนะนำดังต่อไปนี้

1. การเดินทางเข้าประเทศสมาชิก Schengen จะต้องเป็นไปเพื่อท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราวเท่านั้น ห้ามทำงาน

ศึกษา หรือพำนักเป็นการถาวร เด็ดขาด และต้องมีระยะเวลาพำนักรวมกันไม่เกิน 90 วัน (นับรวมเวลาที่อยู่ในทุกประเทศ

สมาชิก ต่อการเดินทาง 1 ครั้ง) และควรทำประกันสุขภาพ (Travel insurance) ทุกครั้งที่เดินทางออกนอกเช็กด้วย

2. สิทธิในการเดินทางไปท่องเที่ยวชั่วคราวดังกล่าว ไม่รวมถึงการเดินทางออกนอกเขตเชงเก้น หมายความ

ว่า ผู้เดินทางที่มีวีซ่าเช็ก จะไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยหรือออกไปประเทศนอกกลุ่ม เช่น อังกฤษ หรือรัสเซีย

โดยทางบกหรือเครื่องบินจากประเทศสมาชิกเชงเก้นอื่นได้ และต้องดำเนินการผ่านพิธีการออกนอกเมืองจากเช็กเท่านั้น

3. กรณีประสงค์จะย้ายไปพำนัก ทำงาน หรือศึกษา ในประเทศสมาชิกเชงเก้นอื่น จะต้องยื่นขอใบอนุญาตทำงาน และวีซ่าระยะยาวจากสถานทูตของประเทศที่จะไปพำนักให้ถูกต้องก่อน การลักลอบพำนัก/ทำงานในประเทศสมาชิกเชงเก้นอื่นโดยใช้วีซ่าเช็ก เป็นการกระทำผิดกฏหมาย หากถูกจับได้ จะมีโทษห้ามเดินทางเข้าเช็กและรวมถึง

ประเทศสมาชิกเชงเก้นอื่นทั้งหมด อย่างน้อย 3-5 ปี

4. ประเภทเอกสาร/วีซ่าของเช็กที่สามารถใช้เดินทางข้ามพรมแดนได้

4.1 หนังสือเดินทางไทย ที่มีอายุเกินกว่า 6 เดือน นับจนถึงวันหมดอายุ พร้อมวีซ่าเช็กหรือเชงเก้น

4.2 ผู้ที่ได้รับเชงเก้นวีซ่าระยะสั้น ประเภทท่องเที่ยว (รหัส C) มีระยะเวลาพำนักไม่เกิน 90 วัน

4.3 วีซ่าระยะยาวของเช็ก ออกให้หลังวันที่ 21 ธันวาคม 2550 (2007) ระยะเวลาอนุญาตตั้งแต่

6 เดือน – 2 ปี โดยวีซ่าดังกล่าวมีลักษณะสังเกต คือมีสีชมพูอมฟ้า บนแผ่นวีซ่ามีข้อความภาษาเช็กว่า POVOLENI KPOBYTU ( แปลว่า Residence Permit)

4.4 ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นพำนักถาวรในเช็ก โดยมีแผ่นสติกเกอร์แปะ หรือตราประทับในหนังสือเดินทาง เขียนว่า Permanent Residence หรือ EU Family Member รวมทั้งต้องมีบัตรประจำตัวเล่มสีเขียว หรือสีฟ้า ที่ทางการเช็กออกให้ มีระยะเวลาอนุญาตตั้งแต่ 5- 10 ปี

4.5 วีซ่าระยะยาวของเช็กและใบอนุญาตให้มีถิ่นพำนักถาวรตามข้อ 4.2 และ 4.3 จะต้องมีอายุไม่

น้อยกว่า 90 วัน นับจนถึงวันสิ้นสุดการอนุญาต และนับตั้งแต่วันแรกที่ข้ามพรมแดน

หมายเหตุ : - เฉพาะผู้ที่ได้รับวีซ่าเช็กระยะยาวเพื่อทำงาน รหัส D (สติกเกอร์สีเขียว) ห้ามเดินทางออกนอกเช็ก

โดยไม่มีวีซ่าของประเทศสมาชิกเชงเก้นที่จะเดินทางไป (ต้องขอวีซ่าก่อนเดินทางออกทุกครั้ง)

- กรณีประสบความเดือดร้อนในระหว่างการเดินทาง โปรดติดต่อสถานทูตไทยในประเทศนั้น

สถานทูตไทยประจำเยอรมัน เบอร์ (49 30) 794810 สถานทูตไทยประจำออสเตรีย เบอร์ (43-1)4783335

หนังสือเดินทาง

1. หนังสือเดินทาง :
· การยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทาง

· ท่านสามารถยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางหรือต่ออายุหนังสือเดินทางที่ต่างประเทศได้หรือไม่ อย่างไร

· ในกรณีที่อยู่ต่างประเทศ บุคคลสามารถยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางทางไปรษณีย์ไปยังสถานทูตสถานกงสุลไทยในต่างประเทศได้หรือไม่

· ท่านที่ถือหนังสือเดินทางของชาติอื่นอยู่ จะสามารถยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางไทยได้หรือไม่

· บุคคลที่เป็นข้าราชการ ประสงค์จะเดินทางไปราชการต่างประเทศ จะยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทาง จะต้องทำอย่างไร ยื่นขอ ณ ที่ใดบ้าง

· ผู้เยาว์สามารถใช้หนังสือเดินทางร่วมกับบิดาหรือมารดาได้หรือไม่ ต้องมีหลักฐานอะไรบ้าง

· ผู้เยาว์อายุ 10 ปี ยื่นคำร้องขอหรือต่ออายุหนังสือเดินทางต้องทำอย่างไร บิดามารดาทั้งสองจะต้องมาร่วมลงนามพร้อมกันหรือไม่

· ผู้เยาว์ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ประสงค์จะยื่นขอหนังสือเดินทาง จะต้องทำอย่างไร

· การขอหนังสือเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

· การต่ออายุหนังสือเดินทางควรกระทำเมื่อใด

· หากหนังสือเดินทางกำลังจะหมด สามารถเติมหน้าใหม่ได้หรือไม่

· หน้าหนังสือเดินทางชำรุดเสียหายหรือฉีกขาดต้องทำอย่างไร


· ประสงค์จะขอให้ผู้อื่นมารับแทน จะต้องทำอย่างไร

· มีการบริการจัดส่งหนังสือเดินทางทางไปรษณีย์หรือไม่

· หากบุคคลทำการแปลงเพศแล้ว ประสงค์จะแก้ไขคำนำหน้าชื่อ สามารถทำได้หรือไม่

· หากทำหนังสือเดินทางสูญหาย ต้องทำอย่างไร

· หากมีการตรวจลงตรา(visa) ที่ยังมีอายุอยู่ในหนังสือเดินทางฉบับเก่า จะสามารถนำไปผนวกกับเล่มหนังสือเดินทางฉบับใหม่ได้หรือไม่

· ทำไมการเดินทางไปต่างประเทศจึงต้องมีหนังสือเดินทางที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน

 

1.1 ถาม การขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ จำเป็นต้องไปยื่นคำร้องด้วยตนเองต่อสถานทูตหรือไม่

ตอบ ผู้ร้องต้องมายื่นคำร้องด้วยตนเอง พร้อมทั้ง พิมพ์ลายนิ้วมือ และถ่ายภาพที่สถานทูต



1.2 ถาม กรณีทำหนังสือเดินทางผู้เยาว์ อายุไม่ถึง 20 ปี บิดาและมารดา ต้องมาแสดงตนด้วยหรือไม่

ตอบ บิดาและมารดาต้องมาลงนามให้ความยินยอมต่อสถานทูต หากบิดาหรือมารดาอยู่ในประเทศไทยให้ทำหนังสือยินยอมที่อำเภอหรือกรมการกงสุล หากมารดาเป็นชาวต่างชาติมิได้จดทะเบียน

สมรสกันและมิอาจตามตัวมาลงนามได้ ให้บิดาที่ดูแลบุตรนำคำสั่งศาล ซึ่งระบุให้เป็นผู้มีอำนาจ ปกครองบุตรมาแสดง หากบิดาเป็นชาวต่างชาติมิได้จดทะเบียนสมรสกันและมิอาจตามตัวมาลงนามได้ ให้มารดานำหนังสือจากอำเภอมาแสดงว่าไม่เคยจดทะเบียนสมรส หรือหนังสือรับรองการอุปการะบุตรแต่เพียงผู้เดียว(ปค.14) ส่วนผู้ปกครองที่มิใช่บิดามารดาของผู้เยาว์ให้นำคำสั่งศาลมาแสดง



1.3 ถาม พำนักอยู่ในเช็ก จะทำหนังสือเดินทางให้ผู้เยาว์ที่อยู่ในไทย ได้อย่างไร

ตอบ ให้บิดาหรือมารดาหรือผู้มีอำนาจปกครองผู้เยาว์ มาติดต่อสถานทูตเพื่อทำหนังสือให้ความยินยอม



1.4 ถาม หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์จะสามารถต่ออายุ เพิ่มหน้า บันทึกแก้ไขชื่อ-สกุล หรือคำนำหน้าชื่อได้หรือไม่

ตอบ ไม่ได้ จะทำได้เพียง 2 กรณี คือ บันทึกเลขหนังสือเดินทางเล่มเดิม และบันทึกเปลี่ยนแปลงลายเซ็น



1.5 ถาม ได้หนังสือเดินทางเล่มใหม่แล้ว ยังมีวีซ่าที่ยังมีอายุใช้งานอยู่ในเล่มเดิมที่ยกเลิกไปแล้วจะต้องทำอย่างไร

ตอบ หากเป็นวีซ่าเช็ก ควรรีบไปติดต่อตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเพื่อย้ายวีซ่ามาอยู่ในเล่มใหม่

หากเป็นวีซ่าของประเทศอื่น สามารถถือหนังสือเดินทางเล่มเดิมที่มีวีซ่าคู่กับหนังสือเดินทางเล่มใหม่เมื่อเดินทางเข้า-ออกประเทศนั้น



1.6 ถาม แต่งงานกับคนเช็ก ประสงค์จะเปลี่ยนคำนำหน้านามและนามสกุลตามสามี ในหนังสือเดินทาง

ตอบ ได้ หากเป็นหนังสือเดินทางรุ่นเดิม ไม่ได้ หากเป็นหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ( ผู้ร้องต้องไปดำเนินการเปลี่ยนคำนำหน้านาม และนามสกุลในบัตรประชาชนจากอำเภอที่มีภูมิลำเนาในประเทศไทยมาก่อน)



1.7 ถาม กระทรวงต่างประเทศและสถานทูต มีอำนาจยกเลิกหนังสือเดินทางคนไทยในต่างประเทศได้หรือไม่

ตอบ ทำได้ หากพบว่าผู้ถือหนังสือเดินทางประพฤติตนให้เสื่อมเสียชื่อเสียงประเทศไทย หรือกระทำการให้เกิดความเสียหายต่อประเทศที่พำนัก รวมทั้งกรณีหนังสือเดินทางสูญหาย หรือตกอยู่ในความ

ครอบครองของบุคคลอื่น ทั้งนี้ สถานทูตจะออกหนังสือเดินทางเล่มใหม่ให้กรณีหนังสือเดินทางสูญหายส่วนกรณีอื่นจะส่งตัวกลับประเทศไทย



1.8 ถาม เมื่อใดจะสามารถขอมีหนังสือเดินทางเล่มใหม่ได้

ตอบ ควรยื่นคำร้องต่อสถานทูต ก่อนที่หนังสือเดินทางเล่มเดิมจะหมดอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือหากถือหนังสือเดินทางรุ่นเก่าอยู่ ควรรีบติดต่อสถานทูตเพื่อขอเปลี่ยนเป็นหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ในโอกาสแรก



1.9 ถาม แต่งงานกับชาวต่างชาติ สามีหรือภริยาจะมีสิทธิได้รับหนังสือเดินทางไทยหรือไม่

ตอบ ไม่ได้ เว้นแต่ชาวต่างชาติผู้นั้นจะได้แปลงสัญชาติเป็นไทยแล้ว



1.10 ถาม บุตรมีหนังสือเดินทางทั้งของไทยและเช็ก ควรใช้เล่มใดเวลาเดินทางเข้าประเทศไทย

ตอบ ควรใช้หนังสือเดินทางเช็กเวลาเดินทางออกและเข้าเช็ก และใช้หนังสือเดินทางไทย เวลาเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย แต่หากมีเฉพาะหนังสือเดินทางเช็กจะต้องขอวีซ่าจากสถานทูตก่อนจึงจะเข้า

ประเทศไทยได้

**********************************************