เมื่อก่อนนั้นคนขับแท็กซี่ในกรุงปรากมีชื่อเสียโด่งดังมาก บ่อยครั้งที่ชาวต่างชาติไม่รู้ตัวว่าถูกคิดเงินเกินราคา หรือถูกโกง หรืออาจจะรู้ตัวเมื่อสายเกินไป หรืออาจเป็นได้ว่ารู้สึกอับอายเกินกว่าที่จะมาโต้เถียงกับคนขับทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าถูกโกง จึงเลือกที่จะจ่ายเงินไปเสีย แล้วคิดว่าเป็น “ภาษีนักท่องเที่ยว”ปัจจุบันได้มีการเข้มงวดขี้นและดีขี้นกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ไม่ได้หมายความว่ากลโกงต่างๆจะหมดไป
นอกจากแท็กซี่จะเรียกค่าบริการในราคาที่สูง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่พบได้ทั่วๆ ไปแล้ว ยังมีวิธีการอื่นๆ ที่ยากจะจับได้ไล่ทัน เช่น โดยอัตราราคาแท็กซี่จะดูไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อคุณดูระยะทางที่เดินทางและราคารวมแล้ว มันไม่น่าจะถูกต้อง นั่นก็หมายความว่า คนขับแท็กซี่โกงมิเตอร์ด้วยการปรับอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งทำให้ค่าแท็กซี่สูงกว่าความเป็นจริง ดังนั้น คุณควรเช็คก่อนเดินทางว่าค่าแท็กซี่โดยประมาณน่าจะเป็นเท่าใด
อัตรามิเตอร์ที่ไม่ถูกต้อง - ระยะทางที่ใช้ในการเดินทางอาจจะดูถูกต้อง แต่กลับมีราคาสูงมาก บ่อยครั้งที่ราคาถูกเพิ่มขึ้นด้วย “ค่าธรรมเนียมสัมภาระ” หรือ “ค่าธรรมเนียมในการออกนอกเขตเมือง” ซึ่งคนขับจะบอกคุณว่าเป็นค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ควรมี เพราะเป็นการเหมาแล้ว
เงินทอน – คนขับจะบอกคุณว่า ขอโทษ ไม่มีเศษเงินที่จะทอนให้กับคุณ ซึ่งคนขับมักจะคิดว่าเงินทอนส่วนนั้นคือทิป หรืออาจจะทอนเงินให้คุณโดยใช้เงินสกุลอื่นๆ โดยหวังว่าคุณจะไม่ทราบว่าเงินของเช็กมีหน้าตาเป็นอย่างไร
พฤติกรรมฉ้อฉลอีกอย่างที่มักจะพบเรียกว่า “การนั่งรถชมวิว” อัตราค่าแท็กซี่และระยะทางถูกต้องตามจริง แต่คุณต้องนั่งรถไกลกว่าความเป็นจริงมากมาย เนื่องจากคนขับตั้งใจขับอ้อมเพื่อทำให้คุณต้องจ่ายเพิ่มขึ้นกว่าเดิม
ยังมีกรณีอื่นๆ เช่น คนขับแท็กซี่บางคนส่งผู้โดยสารผิดโรงแรม ซึ่งอาจจะเป็นด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ได้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ผู้โดยสารจะต้องจ่ายมากกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น ทางที่ดีคุณควรบอกที่ตั้งของโรงแรมด้วย ไม่ใช่บอกเฉพาะแค่ชื่อโรงแรม เนื่องจากหลายโรงแรมเลยทีเดียวที่มีอยู่ 2-3 แห่งภายใต้ชื่อแบรนด์เดียวกัน
แนะนำ ใช้บริการขนส่งมวลชน ซึ่งราคาประหยัด สะดวก และรวดเร็ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น